สารจากคณะกรรมการ

สารจากคณะกรรมการ

บริษัทเล็งเห็นการเติบโตของความต้องการใช้งานการเชื่อมต่อระหว่างประเทศ โดยเฉพาะการเชื่อมต่อระหว่างประเทศในกลุ่ม CLMV (กัมพูชา ลาว เมียนมาร์และเวียดนาม) ที่มีอัตราการขยายตัวเชิงเศรษฐกิจที่สูง บริษัทจึงมุ่งยกระดับองค์กรสู่การเป็นผู้ให้บริการ Network Provider ในระดับภูมิภาคเพื่อรองรับการเป็น Telecom Hub ภายใน 5 ปีข้างหน้า

เรียน ท่านผู้ถือหุ้น

ในปี 2559 ถึงแม้สถานการณ์เศรษฐกิจไทยและภูมิภาคอาเซียนไม่ได้มีการเติบโตที่เด่นชัด แต่ธุรกิจโทรคมนาคมยังคงมีการพัฒนาใหม่ๆ ที่ทำให้ดีมานด์ยังคงขยายตัวได้ และบริษัท ซิมโฟนี่ คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการวงจรสื่อสารความเร็วสูงโดยใช้โครงข่ายเคเบิลใยแก้วนำแสง ยังคงรักษาการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ด้วยความมุ่งมั่นพัฒนาโครงข่ายและการนำเสนอบริการโครงข่ายในรูปแบบใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดที่ปรับเปลี่ยนไป ตามเทคโนโลยียุคใหม่โดยในปี 2559 บริษัทมีรายได้รวม 1,389 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อน 76 ล้านบาท โดยมีกลุ่มลูกค้าที่รายได้เติบโตมากในกลุ่มลูกค้าบริการวงจรส่วนบุคคลระหว่างประเทศ (IPLC) และกลุ่มบริการพรีเมี่ยมบรอดแบรน

บริษัทเล็งเห็นการเติบโตของความต้องการใช้งานการเชื่อมต่อระหว่างประเทศ โดยเฉพาะการเชื่อมต่อระหว่างประเทศในกลุ่ม CLMV (กัมพูชา ลาว เมียนมาร์และเวียดนาม) ที่มีอัตราการขยายตัวเชิงเศรษฐกิจที่สูง บริษัทจึงมุ่งยกระดับองค์กรสู่การ เป็นผู้ให้บริการ Network Provider ในระดับภูมิภาคเพื่อรองรับการเป็น Telecom Hub ภายใน 5 ปีข้างหน้า จึงได้มีการลงทุนครั้งสำคัญ โดยร่วมลงทุนโครงการเคเบิลใต้น้ำMalaysia-Cambodia-Thailand (MCT) กับผู้ประกอบการโทรคมนาคมในประเทศเพื่อนบ้านได้แก่ มาเลเซีย กัมพูชาและไทย โครงการนี้จะรองรับการเติบโตเชิงเศรษฐกิจของภูมิภาคอาเซียนในอนาคต จะสามารถเปิดให้บริการได้ในเดือนเมษายน 2560 ซึ่งถือเป็นพัฒนาการครั้งสำคัญอีกครั้งของ บริษัทในฐานะบริษัทเอกชนรายแรกของประเทศไทยที่ได้เริ่มดำเนินการให้บริการโครงข่ายระบบเคเบิลใต้น้ำระหว่างประเทศ และจะช่วยเสริมศักยภาพการแข่งขันของบริษัทในตลาด IPLC ที่บริษัทจะสามารถเชื่อมโยงโครงข่ายระหว่างประเทศผ่านได้ทั้งโครงข่ายภาคพื้นดินและภาคพื้นน้ำ กอปรกับศักยภาพในทำเลที่ตั้งของประเทศไทย ที่อยู่ในจุดศูนย์กลาง ที่จะพัฒนาโครงข่ายโทรคมนาคมเป็น Alternative Route ให้กับประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาคอาเซียน จึงเป็นโอกาสที่จะสร้างเสริมขีดความสามารถในการแข่งขันได้อย่างยั่งยืน

นอกเหนือจากการลงทุนเพื่อสร้างโครงข่ายที่มีประสิทธิภาพอันเป็นรากฐานที่จะสร้างรายได้ให้เติบโต บริษัทได้ควบคุมต้นทุนให้มีประสิทธิภาพ ด้วยการบริหารจัดการคู่ค้า สินค้าคงคลังและกระบวนการทำงานเพื่อให้มีต้นทุนที่แข่งขันได้ในขณะที่บริษัทยังคงรักษามาตรฐานงาน บริการในระดับพรีเมี่ยมท้ายสุดนี้คณะกรรมการฯ มีปณิธานที่จะประกอบธุรกิจด้วยความเป็นธรรมและโปร่งใสตามหลักธรรมาภิบาลมุ่งเน้นการเพิ่มศักยภาพของบุคลากร ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการขับเคลื่อนองค์กรสมัยใหม่ให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งเป็นองค์กรคุณภาพ ที่สร้างผลตอบแทนแก่ผู้มีส่วนได้เสียทุกท่านอย่างมั่นคงและยั่งยืน และขอขอบพระคุณผู้ถือหุ้น พันธมิตรทางธุรกิจ คู่ค้า สถาบันการเงิน ลูกค้าพนักงานและผู้มีส่วนได้เสีย ทุกท่านที่ให้ความไว้วางใจในการดำเนินงานของบริษัทเสมอมา

นายกรัณย์พล อัศวสุวรรณ
ประธานกรรมการบริหาร

นายวุฒิพงษ์ โมฬีชาติ
ประธานกรรมการ

นายธีรรัตน์ ปัณฑรสูตร
กรรมการผู้จัดการ